😠😠บทเรียนครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ กับ การอวยละครไม่เท่ากันของช่อง3 🎆🎆

คือเข้าใจว่าบางเรื่องลงทุนไปเยอะ ดาราดังแสดง

แต่เหมือนช่องไม่เคยคิดจะใส่ใจเรื่องบท

อันนั้นดารารองลงมา เหมือนปล่อยตามเวรตามกรรม

หลายครั้งละครที่ไม่ใช่ความหวังดันดังกว่า

อย่างเพริงพรางเทียน

แต่เหมือนช่องก็ไม่เปลี่ยนวิธีโปรโมท

หนำซ้ำ เมื่อละครฉายไม่เป็นดั่งที่คิด ก็สร้างสปอตเชิญชวนวุ่นวายอีก ตัวอย่างเช่นปี่แก้วนางหงส์ การโปรโมทเยอะๆ หากเป็นละครที่ดังแล้วมันก็ดูชอบ หากบทแย่แล้วยัวจะมาวุ่นวายอีกมันดูน่ารำคาญ

ไอ้เรื่องที่หวังไว้ หากแป้กขึ้นมาโดนเหยียบซ้ำเยอะนะ เพราะการโปรโมทแบบลำเอียงนี่แหละ

นี่แอบคิดนะว่า การถ่ายไปออนไปสำหรับบางเรื่อง ถ่ายเพิ่มตอนบ้างสำหรับละครที่ดังๆ ก็น่าจะดีถ้าเหมาะสมสมควร

การวางผังละคร ที่กะจะเอาฟอร์มยักษ์(ที่วัดที่ความดังนักแสดง) ลงวันธรรมดา เกรดรองลง ศ-ส-อ นี่แบบควรเลิกวิธีคิดแบบนี้ได้แล้ว

ควรใส่บทละคร ดูบท ดูละครก่อนฉายว่าอันไหนคือฟอร์มดีกว่ากัน เพราะวันธรรมดามันออนนานกว่า หากพังก็พังยาวต้องมาหั่นน่าเกลียด กว่าจะทำละครเรื่องไหนมาสักเรื่องมันเหนื่อยนะสงสารนักแสดง

อีกปัญหานิยายชั้นครูช่องสามไม่ค่อยเลือก ชอบเลือกพล็อตเบาๆ แหวกๆ คนเขียนบทมือไม่ค่อยจะถึง จากนิยายพล็อตแหวกกลายเป็นละครรักดาดๆ ก็มีให้เห็น ส่วนการจับคู่ใหม่ๆ ในปีนี้ก็โอละนะ อยากให้ลองเปลี่ยนดู จะได้น่าสนใจแบบนี้ หนำซ้ำ ยังเพิ่มตัวท็อปช่องได้อีก หากละครมันดัง นี่ต้องมาช่วยกันเพราะบท คนดูช่องสามดูเพราะดาราก่อน (เพราะความดึงดูด)  แต่ถ้าบทไม่ดีเขาเท หลายเรื่องน่าเสียดาย คนเริ่มดูน้อยเพราะไม่ดึงดูด กว่าจะรู้ละครสนุกต้องมารอกระแสอีก เสียดายมาก

แต่ถือว่าปีนี้เริ่มมาดีละ แต่ก็ยังมีบทพังบ้าง แต่ก็ยังไม่ดีไม่พังทั้งล็อตแบบบางปี

เอาจริงละครที่ดาราไม่แมสเท่า  อาจชูเรื่องบทก็ได้ อย่างแบบเพลิงพรางเทียน หน้าฉากคือละครแย่งผัวเมีย แต่ไม่ข้างในนั้นสนุก คุณจะต้องตีโจทย์เอาจุดเด่นของละครเรื้องนั้นออกมานำเสนอสิ ว่าไหม